ตามความเชื่อและศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยนั้น อาการปวดเมื่อยตามร่างกายเกิดจากลมที่อุดกั้น ไม่เคลื่อนที่ ทำให้ไฟในร่างกายหย่อน หรือ กำเริบเป็นบางจุด หรือหากพูดในทางแผนปัจจุบันจะหมายถึงระบบการไหลเวียนโลหิตไม่ดี จนทำให้เกิดการคั่งค้างของของเสียตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย การนวดหรือการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น นวดน้ำมัน อบไอน้ำ หรือแช่สมุนไพร จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนโลหิต รวมไปถึงการขจัดการก่อตัวของลม ช่วยให้ลมและไฟสามารถเคลื่อนที่ทั่วร่างกายตามเดิมหรือดีกว่าเดิม ดังนั้นหลังจากได้รับการนวดเสร็จแล้ว ร้านนวดจึงมีการเสิร์ฟชาร้อน ที่ทำจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ขับลมให้กับผู้รับบริการ เพื่อเป็นส่งเสริมการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตควบคู่ไปด้วย โดยสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ทำน้ำชา ได้แก่
- ขิง สรรพคุณ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการหวัด ป้องกันโรคหวัดได้ เพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดได้
- ตะไคร้ สรรพคุณ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและช่วยบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ได้ เช่น ปวดฟัน ปวดตามข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และยังสามารถล้างพิษในร่างกาย โดยสารพิษและกรดยูริคจะถูกขับออกจากร่างกายจากการปัสสาวะ
- มะตูม สรรพคุณ เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย แก้ร้อนใน แก้กระหาย ให้ความสดชื่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และยังแก้ท้องผูก แก้ปวดท้องจากอาหารอาหารไม่ย่อย ทำให้รู้สึกสบายท้องได้ด้วย
- เก๊กฮวย สรรพคุณ ทำให้ร่างกายสดชื่น ลดระดับความดันโลหิต ทำให้ร่างกายเย็นลง แก้ร้อนใน ชุ่มคอ ลดอาการวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย ช่วยขับลม ระบายลม และต้านอาการอักเสบของร่างกาย
ดังนั้น หลังจากได้รับการนวด ไม่ว่าจะเป็น นวดไทย นวดน้ำมัน นวดประคบสมุนไพร หรืออื่น ๆ ที่มีให้บริการ ควรดื่มน้ำสมุนไพรร้อนปิดท้าย เพื่อช่วยปรับสมดุลร่างกายจากภายในควบคู่ไปด้วยนะคะ